วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ประเภทของคอมพิวเตอร์

ประเภทของคอมพิวเตอร์

คอมพิวเตอร์สามารถจำแนกได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของขนาดเครื่องความเร็วในการประมวลผล และราคาเป็นข้อพิจารณาหลัก โดยทั่วไปนิยมจำแนกประเภท คอมพิวเตอร์ เป็น 6 ประเภทดังนี้คือ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) คอมพิวเตอร์เมนเฟรม (mainframe computer) มินิคอมพิวเตอร์ (minicomputer) เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (server computer ) ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) และคอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้



ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer)เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด จึงราคาแพงมาก ความสามารถในการประมวลผลที่ทำได้มากกว่า พันล้านคำสั่งต่อวินาที ตัวอย่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น การพยากรณ์อากาศการทดสอบทางอวกาศ และงานอื่น ๆ ที่มีการคำนวณที่ซับซ้อน

คอมพิวเตอร์เมนเฟรมหรือคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
(mainframe computer)
เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพรองจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์
สามารถรองรับการทำงานจากผู้ใช้ได้หลายร้อยคนในเวลาเดียวกัน
ประมวลผลด้วยความเร็วสูง มีหน่วยความจำหลักขนาดใหญ่
ตลอดจนการจัดเก็บข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก คอมพิวเตอร์เมนเฟรม
นิยมใช้กับองค์การขนาดใหญ่ที่มีการเข้าถึง ข้อมูลของผู้ใช้จำนวน
มากในเวลาเดียวกันเช่น งานธนาคาร การจองตั๋วเครื่องบิน
การลงทะเบียนและการตรวจสอบผลการเรียน ของนักศึกษา เป็นต้น
มินิคอมพิวเตอร์ หรือคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง (minicomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานน้อยกว่า เมนเฟรมแต่สูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ และสามารถรองรับการทำงาน จากผู้ใช้ได้หลายคนในการทำงาน ที่แตกต่างกัน จากจุดเริ่มต้นใน การพัฒนา ที่ต้องการให้ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ทำงานเฉพาะอย่าง เช่น การคำนวณทางด้านวิศวกรรม ทำให้การพัฒนามินิคอมพิวเตอร์ เจริญอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันธุรกิจและองค์การหลายประเภทนิยมนำ มินิคอมพิวเตอร์มา ใช้ในการให้บริการข้อมูลแก่ลูกค้า เช่น การจองห้องพักของโรงแรม การทำงานด้านบัญชีขององค์การธุรกิจ เป็นต้น

เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ (server computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่สนับสนุน
การทำงานของคอมพิวเตอร์ เครือข่ายซึ่งใช้ในการจัดสรรและใช้ทรัพยากรร่วมกัน
เช่น แฟ้มข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ( เช่น เครื่องพิมพ์และ
อุปกรณ์อื่น ๆ )


ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีผู้นิยมใช้แพร่หลายมากที่สุด ส่งผลให้การพัฒนาเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์มีลักษณะและรูปแบบ ที่แตกต่างกัน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ( desktop computer ) คอมพิวเตอร์พกพา ( portable computer ) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้







คอมพิวเตอร์แบบฝัง (embedded computer ) เป็นคอมพิวเตอร์ที่ฝังในอุปกรณ์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้ทำงาน เฉพาะด้าน พิจารณาจากภายนอกจะไม่เห็นว่าเป็นคอมพิวเตอร์แต่จะ ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานบางอย่างของอุปกรณ์นั้นๆ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ เช่น เครื่องเล่นเกม ระบบเติมน้ำมันอัตโนมัติ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น


ความหมายของคอมพิวเตอร์
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มีความเชื่อกันว่า การมีความรู้เกี่ยวกับ การใช้งานคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลหรือที่รเยกกันโดยทั่วไปว่า personal computer นั้น เป็นความสามารถหรือความชำนาญขั้นพื้นฐานที่จำเป็น ในการดำเนินชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกอบธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากปริมาณการใช้คอมพิวเตอร์ และคุณสมบัติของ คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมาก ขึ้นส่งผลให้คนจำนวนมาก เชื่อว่าแต่ละคน จำเป็นต้องมีความรู้พิ้นฐานด้านคอมพิวเตอร์กล่าวคือ รู้วิธีการใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม โลกปัจจุบันซึ่งเป็นโลกของเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือที่มักเรียกกันว่า เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร การมีความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์ เพียงอย่างเดียวนั้นถือว่า ไม่เพียงพอต่อไปแล้ว บุคคลจำเป็นต้องเรียนรู้การบริโภคข้อมูล ข่าวสาร และสามารถวิเคราะห์ข่าวสารที่มีอยู่เป็นจำนวนมากให้เกิด ประโยชน์ได้
ความหมายของคอมพิวเตอร์ นักวิชาการหลายท่านได้กำหนดหรือนิยามความหมายของ คอมพิวเตอร์ไว้หลายความหมาย แต่เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว ความหมายของคอมพิวเตอร์จะหมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่งมทที่สามารถรับโปรแกรมและข้อมูล ประมวลผล สื่อสารเคลื่อนย้ายข้อมูลและแสดงผลลัพธ์ได้

ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
ในสมัยโบราณมนุษย์ใช้นิ้วมือในการคำนวณ แต่ก็มีข้อจำกัดคือ ตัวเลข มีจำนวนมากขึ้นก็จะไม่สามารถใช้นิ้วมือคำนวณได้ มนุษย์จึงใช้ก้อนหิน ลูกปัด และวัสดุอื่น ๆ มาใช้ในการนับแทนนิ้วมือ เพื่อช่วยให้การคิดเลขสะดวกและถูกต้องยิ่งขึ้น ต่อมาชาวจีนได้คิดประดิษฐ์ลูกคิดขึ้นเพื่อช่วยในการคำนวณ และเบลส ปาสคาล ( Blaise Pascal ) นักปรัชญาและนักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องบวกเลขแบบมีเฟืองหมุนหลักจากนั้น ก็ได้มีการพัฒนาเครื่องคิดเลขจากมือหมุนเป็นระบบไฟฟ้าในที่สุด ชาร์ลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) นักคณิตศาสตร์และนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษได้ประดิษฐ์ เครื่องคำนวณชื่อดิฟเฟอร์เร้นซ์เอนยิน (Difference Engine) ขึ้นซึ่งเครื่องคำนวณนี้สามารถคำนวณค่าฟังก์ชันทาง คณิตศาสตร์ต่อเนื่องกันได้

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ

เทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะ
คอมพิวเตอร์ที่ใช้งานสำหรับมืออาชีพนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสองส่วนด้วยกัน คือ ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพ และซอฟต์แวร์ชั้นดีที่มีความเสถียรภาพ องค์ประกอบทั้งสองอย่างเมื่อรวมกันจะสร้างประสิทธิผลให้กับผู้ใช้งานได้อย่างมากมาย นี่คือนิยามของอาคารสำนักงานอัจฉริยะ The Offices @ Central World อาคารกระจกสูงเด่นเป็นสง่ากลางแยกราชประสงค์ ซึ่งเจ้าของอาคารมีแนวคิดที่จะให้เป็นอาคารสำนักงานอัจฉริยะ หรือ smart office ที่จะมาเชิดหน้าชูตากรุงเทพฯให้ทัดเทียมมหานครชั้นนำอย่างนิวยอร์ก ลอนดอน โตเกียว BPB เรือนตะวัน ของบริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) แนะนำอาคารอัจฉริยะที่หลายคนอาจยังไม่รู้
การออกแบบอาคาร The Offices @ Central World ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องจากโครงสร้างเดิม จึงยังคงผังบริเวณและขอบเขตของอาคารให้เป็นไปตามรูปแบบเดิมที่มีอยู่แล้ว คำว่า อัจฉริยะ ของตึกนี้มาจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างลงตัว ซึ่งพยายามทิ้ง open space ไว้เป็น public area ให้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของสระน้ำและสวนหย่อมขนาดย่อมหน้าออฟฟิศ
ความอัจฉริยะทางสถาปัตยกรรม ยังเกิดจากการจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างมีประสิทธิภาพด้วยโครงสร้างภายในแบบ central core คือแทนที่จะนำเสามาไว้ตรงกลาง ก็เปลี่ยนเป็นเนื้อที่ของส่วนบริการอาคารทั้งหมด เช่น ลิฟต์โดยสารและขนของ ห้องเครื่อง ห้องน้ำ และสิ่ง จำเป็นอื่นๆ จึงมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น บริเวณโถง lobby atrium ด้านหน้าได้ออกแบบให้มีความสูงเท่าตึก 5 ชั้น สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ทั้งจากภายในและภายนอก จึงช่วยเชื่อมต่อบรรยากาศของพื้นที่ภายในกับภายนอก ให้เข้ากันได้
ด้านเทคโนโลยีอาคารนี้ติดตั้งระบบลิฟต์ทันสมัยล่าสุดที่มีความเร็วสูงมาใช้เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ความอัจฉริยะของลิฟต์จะช่วยบริหารเวลาการใช้ลิฟต์ในชั่วโมงเร่งด่วนอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความปลอดภัยด้วยระบบ access card ที่ช่วยแจ้งตำแหน่งของลิฟต์ที่จะไปยังชั้นเป้าหมายโดยไม่ต้องแวะไปยังชั้นอื่น ความอัจฉริยะของระบบลิฟต์นี้จะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดเวลา เพราะมันเป็นการ grouping คนที่มีปลายทางเดียวกันไปด้วยกัน
อาคารนี้ได้จัดให้บริเวณของห้องทำงานก็ติดกับกระจก ทำให้ประหยัดพลังงานเพราะได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ และยังทำให้ผู้ใช้งานได้มองเห็นวิวภายนอกอีกด้วย นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาของระบบปรับอากาศที่มักมีปัญหาในอาคารสูงในเมืองไทยที่มักจะมีอุณหภูมิไม่เท่ากัน ด้วยระบบเทคโนโลยีเครื่องปรับอากาศที่ช่วยถ่ายเทอากาศภายในอาคาร และปรับอุณหภูมิภายในให้เหมาะสมกับสภาพอากาศภายนอก
นอกจากนี้อาคารจอดรถ 3 ชั้นของ The Offices @ Central World ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษจะสามารถรองรับรถได้กว่า 7,000 คัน และรองรับปริมาณรถหมุนเวียนรถเข้าออกได้ถึง 35,000 คันต่อวัน

สรูป การพิจารณาการตัดสินใจนำระบบสำนักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้

การตัดสินใจนำระบบสำนักงานอัตโนมัติเข้ามาใช้: ระบบงานสำนักงานอัตโนมัติเป็นงานที่ต้องใช้ผู้เชี่ยว ชาญ เฉพาะด้านเป็นผู้จัดระบบดังนั้นก่อนจะสร้างระบบสำนักงานอัตโนมัติคงต้องเป็นหน้าที่ของบุคคลเหล่านี้คือ

  1. ผู้ขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  2. ทีมงานเฉพาะกิจของบริษัท
  3. ที่ปรึกษา
  4. ทีมงานเฉพาะกิจร่วมกับที่ปรึกษา

ปัจัยที่ต้องพิจารณาก่อนการเปี่ยลนแปลงระบบสํานักงานมีดังนี้ 1.การจัดการเอกสารในสํานักงาน พิจารณาถึงข้อมูลต่างๆ ดังนี้ (1.1)ปริมารงานที่พิมพ์มากน้อยเพียงใด(1.2)เวลาที่ใช้ในการพิมพ์เอกสาร(1.3)ปริมารเอกสารมีมากน้อนเพียงใด(1.4)ปริมารเอกสารที่ผิดพาด(1.5)ระดับคุณภาพและความสวยงามของการพิมพ์(1.6)ปริมาณงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ใช้ได้มากแค่ไหน(1.7)จํานวนพนักงานที่ผลิดเอกสารและค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน(1.8)จํานวนการสึกสึกหรอที่ใช้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเอกสาร 2.การวิเคราะห์ระบบสํานักงานทั้งระบบ การวิเคราะห์ระบบสํานักงานจะพิจารณาสิ่งต่อไปนี้ (1.1)พิจารณาโครงสร้างของระบบสํานักงาน(1.2)พิจารณาผังของสํานักงาน(1.3)พิจารณาหน้าที่ของอุปกรณ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน(1.4)พิจารณาลักษณะของแบบฟอณ์มที่ใช้วิเคราะฆื(1.5)พิจารณาหน้าที่ของงาน เมื่อทำการวิเคราะห์ระบบสำนักงานตามรายละเอียดข้างต้นแล้วก็คงได้ข้อมูลมากเพียงพอที่จะมาประกอบการตัดสินใจได้ผิดพาดให้น้อยที่สุด ควรใช้ปัดใจภายนอกด้วย เช่น การศึกษา การใช้อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ชนิดหรือยี่ห้อราคาของเครื่องมือคุมกับการลงทุนหรือไม่ คู่แข่งใช้อุปกรณ์ชนิดใดบ้าง แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และโอโกสของการขยายตัวของธุรกิจตลอดจนความพร้อมของบุคลากรในสําน้กงานที่จะมีผลใงนในสํานักงานอัตโนมัติที่จัดหามา สามารถใช้งานได้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพที่สุด